นักธุรกิจสาวถูกหลอกเทรดหุ้น หมดตัว 159 ล้าน

นักธุรกิจสาวถูกหลอกเทรดหุ้น หมดตัว 159 ล้าน

วันที่ 11 ก.ย. 2568 ที่ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด มี น.ส.เอ (นามสมมติ) เจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นผู้เสียหายเดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ถูกหลอกเทรดหุ้น สร้างความน่าเชื่อถือให้โอนเงินเข้าบัญชีนิติบุคคล สุดท้ายสูญเงิน 159 ล้านบาท

วันที่ 11 ก.ย. 2568

น.ส.เอ กล่าวว่า ตนเป็นกรรมการบริษัทแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นนักลงทุนเทรดหุ้นอีกด้วย ต่อมาช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ที่เพจเฟซบุ๊กของตนมีโฆษณาขึ้นเชิญชวนให้ลงทุนเทรดหุ้น ตนสนใจเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 68 ได้โหลดแอปพอร์ตดังกล่าวในแอปเปิ้ลสโตร์ มีรูปหน้าโปรไฟล์ของเซียนเทรดหุ้นชื่อดังท่านหนึ่งที่มีความน่าเชื่อถือมาก (มารู้ตอนหลังว่าเป็นแอปปลอม) ก่อนเข้าไปอยู่ในกลุ่ม มีสมาชิกกว่า 300 คน

ต่อมาเจ้าของพอร์ตบอกว่า มีแคมเปญพิเศษสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ ได้กำไร 100% หักค่าธรรมเนียม 15 % มีสมาชิกแค่ 5-6 คน แต่ละคนที่ลงทุนพอร์ตนี้จะมีเลขาฯ ของพอร์ตดูแลส่วนตัว ตนสนใจลงทุนครั้งแรกโอนเงินไป 1 ล้านบาทเข้าบัญชีนิติบุคคลแห่งหนึ่ง ได้กำไรครั้งแรก 5 แสนบาท ต่อจากนั้นตนก็โอนเงินเทรดหุ้นไปเรื่อย ครั้งละ 1 ล้านบ้าง 2 ล้านบ้างในนามส่วนตัวและโอนในนามนิติบุคคล เพราะตนเป็นเจ้าของบริษัทด้วย ครั้งละ 10 ล้าน โอนมากสุด 15 ล้าน ด้วยความโลภช่วงเวลาแค่วันที่ 24 มิ.ย. – 17 ก.ค. 68 ตนโอนไป 159 ล้าน

ที่ผ่านมา ไม่เคยถอนเงินออกมาเลย และเมื่อต้องการถอนเงินช่วงปลายเดือน ก.ค. พอร์ตอ้างว่า ต้องหาเงินมาลงอีก 50 ล้าน ถึงจะถอนเงินทั้งหมดได้ แต่ตนบอกไปว่าไม่มีเงินแล้ว ทางพอร์ตแจ้งว่าโอนลงมาอีก 25 ล้านก็ได้ ตนเตรียมจะเอาบ้านที่ดินไปจำนองแล้วแต่เพื่อนเตือน กระทั่งเช็กข้อมูลจนละเอียดจึงรู้ว่าเป็นพอร์ตปลอมจริงๆ ส่วนเงินที่โอนไปบัญชีนิติบุคคลมีหลายบัญชี ตนสงสัยเหมือนกัน ตอนแรกสอบถามไปว่าตนเป็นนักลงทุนรายใหญ่มีการดูเป็นพิเศษ ต้องทำบัญชีนิติบุคคลให้โดยเฉพาะจึงเชื่อมาก เพราะการเปิดบัญชีนิติบุคคลทำยาก ต้องมีการตรวจสอบโดยละเอียดแล้วถึงจะเปิดได้

น.ส.เอ กล่าวอีกว่า วันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา ไปแจ้งความที่ กก.2 บก.สอท.1 แล้ว หลังเกิดเหตุ ตนเงินหมดตัว สภาพจิตใจแย่มาก คิดฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายทำใจได้ ยอมรับสิ่งที่ตนเองทำผิดพลาด ตนจึงมาร้องเพจสายไหมต้องรอดให้ช่วยและเตือนกลุ่มสมาชิกอีก 5-6 คนให้ระวังเพราะเป็นพอร์ตปลอม นอกจากนี้ ยังรู้มาว่ามิจฉาชีพกลุ่มนี้จะเปิดพอร์ตชื่ออื่นอีก จึงขอเตือนนักลงทุนเทรดหุ้นทั้งหลายให้ระวัง ถ้าโหลดเข้าไปจะเป็นแอปปลอม พอร์ตปลอม และทำเอกสารปลอมขึ้นมาทั้งนั้น

นายเอกภพ กล่าวว่า ขอเตือนนักลงทุนที่เทรดหุ้นกับผู้เสียหายรายนี้ ให้ถอนหุ้นทันทีที่ท่านลงเงินเทรดหุ้นไปนั้นเป็นพอร์ตปลอม วันพรุ่งนี้จะพาผู้เสียหายรายนี้ไปพบ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 เพื่อเร่งรัดคดีต่อไป

ขอบคุณข่าว นักธุรกิจสาวถูกหลอกเทรดหุ้น จาก : https://www.thaich8.com

📌 ประเด็นสำคัญ นักธุรกิจสาวถูกหลอกเทรดหุ้น

• ผู้เสียหาย: น.ส.เอ (นามสมมติ) นักธุรกิจและนักลงทุน เป็นเจ้าของบริษัท
• เหตุการณ์: ถูกหลอกให้ โอนเงินลงทุนเทรดหุ้น ผ่านแอปปลอมที่สร้างโปรไฟล์เลียนแบบ “เซียนหุ้นชื่อดัง”
• วิธีการ:
  • มีโฆษณาชักชวนทาง Facebook → โหลดแอปจาก App Store (แอปปลอม)
  • เข้ากลุ่มนักลงทุนกว่า 300 คน → มีเลขาส่วนตัวดูแลแต่ละพอร์ต
  • อ้างกำไร 100% หักค่าธรรมเนียม 15% เพื่อจูงใจ
• เงินที่โอน:
  • เริ่มลงทุน 1 ล้าน → ได้กำไร 5 แสนจริง (ยิ่งเชื่อมั่น)
  • หลังจากนั้นโอนเรื่อย ๆ ทั้งนามส่วนตัวและนิติบุคคล
  • ยอดสูงสุด 15 ล้านต่อครั้ง รวมทั้งหมด 159 ล้านบาท
• ปัญหา:
  • ไม่เคยถอนเงินออกได้จริง
  • ถูกอ้างว่า ต้องโอนเพิ่ม 50 ล้าน (หรืออย่างน้อย 25 ล้าน) ถึงจะถอนเงินได้
  • ตรวจสอบภายหลังพบว่าเป็น พอร์ต-แอปปลอม เอกสารปลอมทั้งหมด
• ผลกระทบ:
  • ผู้เสียหายหมดตัว จิตใจย่ำแย่ คิดสั้น แต่สุดท้ายทำใจได้
  • แจ้งความกับ กก.2 บก.สอท.1 และขอความช่วยเหลือจากเพจ สายไหมต้องรอด
• การดำเนินการ:
  • นายเอกภพ (สายไหมต้องรอด) เตือนนักลงทุนที่เกี่ยวข้องให้ถอนทันที
  • จะพาผู้เสียหายเข้าพบ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 เพื่อเร่งคดี

⚠️ ข่าวหลอกลวงลงทุน Forex ข่าวนี้สะท้อนว่า มิจฉาชีพยังคงใช้ “แอปปลอม-พอร์ตปลอม” เลียนแบบบุคคลมีชื่อเสียง มาหลอกนักลงทุน โดยสร้างความน่าเชื่อถือผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีนิติบุคคลและให้ผลตอบแทนช่วงแรกเพื่อจูงใจ ก่อนเชิดเงินก้อนใหญ่ไป